บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้

  1. บริษัทฯ ได้กำหนดกฎระเบียบภายในบริษัทเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และจะปฏิบัติตามกฎระเบียบนั้นๆในการได้มา・ใช้งาน・ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อรักษาซึ่งกฎระเบียบที่กำหนด
  2. ข้อมูลส่วนบุคคล จะถูกใช้ในขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้แล้วเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นได้ นอกจากนี้ บริษัทฯจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะที่อาจสนับสนุนหรือชักจูงให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ยุติธรรม ซึ่งได้กำหนดมาตรการลงโทษ หากมีการนำข้อมูลไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้กำหนดไว้หรือใช้ในทางที่ผิดกฏหมาย
  3. เราจะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บุคคลที่สาม (รวมถึงบุคคลที่สามในต่างประเทศ) โดยไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากคุณยกเว้นตามที่กฎหมายอนุญาต
  4. มีการติดตั้งSSL(Secure Sockets Layer)ในระบบเครือข่ายของบริษัทในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการเข้าใช้งานที่ไม่ถูกต้อง,การสูญหาย,ความเสียหาย,การรั่วไหลของข้อมูล ร่วมกับมาตรการการป้องกันแก้ไขที่เหมาะสมต่อข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในด้านเทคนิคและด้านโครงสร้าง ในกรณีที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดการโดยบริษัทรั่วไหล สูญหาย หรือเสียหาย เราจะใช้มาตรการที่เหมาะสม เช่น การรายงานต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และแจ้งให้บุคคลนั้นทราบตามข้อกำหนดของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ 
  5. กรณีที่มีการร้องขอจากเจ้าของข้อมูลให้เปิดเผย,แก้ไข, การเปิดเผย,แก้ไข,เพิ่มเติม,ลบออก,การระงับการใช้งาน/ยกเลิก,การระงับส่งต่อข้อมูลให้กับบุคคลที่สาม บริษัทฯจะปฏิบัติตามภายในเวลาที่สมเหตุสมผล หลังจากที่ได้ตรวจสอบกับเจ้าของข้อมูลแล้ว
  6. บริษัทฯจะมีการทบทวนกฎระเบียบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอยู่เสมอ เพื่อให้ทันเหตุการณ์และสอดคล้องกับกฎหมายและแนวปฏิบัติที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล
  7. การใช้งานเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ จะมีการใช้คุ้กกี้(Cookie)เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการ คุ้กกี้(Cookie)คือ ข้อมูลประเภทหนึ่งที่ถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ Cookieที่ใช้ในเว็บไซต์นี้ จะถูกใช้เพื่อการส่งข้อมูลอย่างเหมาะสม
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เว็บไซต์นี้ใช้ Google Analytics ซึ่งเป็นบริการของ Google Inc. เพื่อให้เข้าใจสถานะการใช้งานของเว็บไซต์นี้ Google Analytics ใช้คุกกี้ที่บริษัทฯออกให้เพื่อวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์นี้ บริษัทฯได้รับผลการวิเคราะห์ (รายงาน Google Analytics เกี่ยวกับคุณลักษณะของผู้ใช้และหมวดหมู่ความสนใจ ฯลฯ) จาก Google และเข้าใจสถานะการใช้งานของเว็บไซต์นี้

    ข้อมูลที่รวบรวม บันทึก และวิเคราะห์โดย Google Analytics ไม่มีข้อมูลใดที่ระบุตัวบุคคล นอกจากนี้ Google จะได้รับการจัดการข้อมูลดังกล่าวตามนโยบายความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ Google อาจใช้ข้อมูลคุกกี้ที่ Google ให้ไว้ ผลการวิเคราะห์ ข้อมูลระบุอุปกรณ์ ฯลฯ ร่วมกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถือครองโดย Google

    โปรดดู URL ต่อไปนี้สำหรับข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Analytics และนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google
    ข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Analytics
    นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google

    นอกจากนี้ โปรดดูผลการสำรวจต่อไปนี้ซึ่งเผยแพร่โดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของญี่ปุ่นสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับระบบเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่ง Google ตั้งอยู่
    https://www.ppc.go.jp/files/pdf/california_report.pdf

หัวข้อประกาศตาม「กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล」

 บริษัทฯขอแจ้งให้ทราบดังต่อไปนี้ ตาม「กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล」(ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า ”กฏหมาย”)

1. หัวข้อเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล(กฏหมายมาตรา 32 วรรคที่1 ข้อที่2)
  1. บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้
    วัตถุประสงค์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล(กฎหมายมาตรา21วรรคที่1)
    กรณีที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่กรอกลงในเอกสารโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล(รวมถึงการบันทึกข้อมูลทางอิเลคทรอนิคส์) จะต้องมีการแจ้งวัตถุประสงค์ ณ เวลานั้นๆ(กฎหมายมาตรา21วรรคที่2)
    กรณีที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาโดยนอกเหนือจากข้างต้น จะมีการจัดการการใช้งานตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้(กฎหมายมาตรา18วรรคที่1)

    【การแบ่งประเภทและวัตถุประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล】

    1. ข้อมูลลูกค้า
      ข้อมูลสินค้า,บริการที่สั่งซื้อ,การให้ข้อมูล,การเรียกเก็บเงิน,การชำระเงิน,รวมถึงข้อมูล,สินค้า,บริการของบริษัทฯ
    2. ข้อมูลมอบหมายจ้างงาน
      การแจ้งรายละเอียดงาน,การเรียกเก็บเงิน,การชำระเงิน
    3. ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสอบถาม・การร้องเรียน
      การตรวจสอบรายละเอียด/การตอบคำถามต่อข้อร้องเรียนหรือการติดต่อสอบถาม
    4. ลูกจ้าง(รวมถึง ลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานที่ลาออกแล้ว)
      การแจ้งข้อมูลรายละเอียดงาน,การดูแลจัดการของฝ่ายบุคคล
    5. ข้อมูลผู้สมัครงาน
      การพิจารณาและการตกลงจ้างงาน,การดูแลจัดการของฝ่ายบุคคล
    6. การปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ได้รับการมอบหมายจ้างงาน
2. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน (กฎหมายมาตรา27ข้อที่5 / ข้อที่3)

บริษัทฯจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกันกับบริษัทสาขาในต่างประเทศดังต่อไปนี้

  1. รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่จะใช้ร่วมกัน: ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของบริษัทฯ เช่น ชื่อ สถานที่ทำงาน / สังกัด หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ฯลฯ
  2. ขอบเขตการใช้ข้อมูลร่วมกัน: บริษัทลูกและกลุ่มบริษัทในเครือ
  3. วัตถุประสงค์ของการใช้ร่วมกัน: 1. (1) วัตถุประสงค์การใช้งานที่กรอกบันทึกไว้ใน “ข้อมูลลูกค้า”
  4. บุคคลที่รับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัทฯ (กรุณาอ้างอิง 4. (1) สำหรับที่อยู่และชื่อของตัวแทน)


3.หัวข้อเกี่ยวกับการดำเนินการตามการร้องขอ เช่น การเปิดเผยข้อมูล เป็นต้น (กฎหมายยมาตรา 32)

บริษัทฯ จะดำเนินการตามการร้องขอจากเจ้าของข้อมูลหรือตัวแทนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เปิดเผย,แก้ไข,เพิ่มเติม,ลบ,ระงับการใช้งานการส่งต่อยังบุคคลอื่น เป็นต้น (ต่อไปเรียกว่า「การเปิดเผยข้อมูล」) และจะดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อการร้องขอนั้น กรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูล กรุณาดำเนินการร้องขอไปยังช่องทางการร้องขอตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดดังนี้

(1) วิธีการร้องขอ
  ผู้ที่สามารถร้องขอการเผิดเผยข้อมูลได้
   ู้ที่สามารถร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลได้ ต้องเป็นเจ้าของข้อมูล,ตัวแทนโดยชอบธรรมทางกฎหมายและตัวแทนที่เจ้าของข้อมูลได้ระบุและกำหนดขึ้นมา
  วิธีการรับเรื่องร้องขอ
   กรุณาส่งเอกสารที่จำเป็นดังต่อไปนี้แต่ละรายการทางไปรษณีย์มายังที่อยู่ที่กำหนด ทั้งนี้ กรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการร้องขอแต่ละรายการ กรุณาติดต่อสอบถามวิธีการไปยังช่องทางการร้องขอ

  เอกสารที่จำเป็น

  1. คำร้องขอเปิดเผยข้อมูล(ไม่มีการกำหนดรูปแบบ แต่ต้องมีเนื้อหาดังต่อไปนี้ รายละเอียดการร้องขอ,ชื่อ,ที่อยู่,เบอร์โทรศัพท์ อนึ่งเมื่อร้องขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลโปรดระบุวิธีการเปิดเผยด้วย (จัดส่งเป็นลายลักษณ์อักษรหรือส่งไฟล์ PDF ทางอีเมล)
    หากต้องการเปิดเผยทางอีเมล ที่อยู่ของอีเมลก็จะต้องถูกเปิดเผยซึ่งอยู่ในหัวข้อใบคำร้องขอที่ต้องระบุ)
  2. เอกสารแสดงตัวตนของเจ้าของข้อมูล (สำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ใบขับขี่,ทะเบียนราษฎร์,หนังสือเดินทาง เป็นต้น ) กรณีที่เป็นการร้องขอโดยตัวแทน(ตัวแทนโดยชอบธรรมทางกฎหมายและตัวแทนที่ได้กำหนดขึ้น) กรุณาแนบเอกสารเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
  3. เอกสารตรวจสอบสิทธิ์ตัวแทน:
    [กรณีตัวแทนโดยชอบธรรมทางกฎหมาย] สำเนาเอกสารที่สามารถตรวจสอบสิทธิ์การเป็นตัวแทนได้ เช่น ทะเบียนบ้าน เป็นต้น
    [กรณีตัวแทนที่ได้กำหนดขึ้น] ใบมอบอำนาจ(ที่มีการลงนามหรือประทับตราของเจ้าของข้อมูล)และเอกสารรับรองตราประทับของเจ้าของข้อมูล(เอกสารออกไม่เกิน3เดือน)
  4. เอกสารแสดงตัวตนของตัวแทน (สำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ใบขับขี่,ทะเบียนราษฎร์,หนังสือเดินทาง เป็นต้น )

(2) ค่าธรรมเนียม ฟรี
(3) ข้อควรระวังอื่นๆ 

ข้อควรระวังเกี่ยวกับเอกสารของเจ้าของข้อมูลและเอกสารของตัวแทน
กรณีเอกสารมีการระบุรายละเอียดบางอย่าง เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสำมะโนครัว,ข้อมูลการรักษา ให้ลบรายละเอียดส่วนนั้นออกก่อน แล้วค่อยส่งเอกสาร

กรณีไม่สามารถทำตามข้อร้องขอ เช่น การร้องขอเปิดเผยข้อมูลได้
ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการทำตามข้อร้องขอ เช่น การร้องขอเปิดเผยข้อมูล ดังนั้นจึงขออภัยในความไม่สะดวก โดยจะมีการแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอทุกครั้ง

  1. กรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบตัวตนของผู้ร้องขอได้ เช่น เจ้าของข้อมูลส่วนตัวหรือตัวแทน เป็นต้น
  2. กรณีที่สิ่งที่ร้องขอไม่ตรงกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่
  3. เมื่อตกอยู่ภายใต้เหตุผลอื่นๆ ในการยกเว้นคำขอให้เปิดเผย ฯลฯ ตามกฎหมาย

วัตถุประสงค์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูล จะต้องถูกใช้ในขอบเขตที่จำเป็นและตอบสนองเท่าที่ร้องขอเท่านั้น และจะไม่มีการส่งคืนเอกสารที่ส่งมาเพื่อใช้ในการดำเนินการร้องขอ เมื่อการตอบรับต่อการร้องขอแล้วเสร็จ จะมีการจัดการหรือทำลายเอกสารดังกล่าวในช่วงระยะเวลานึงหลังจากนั้นอย่างเหมาะสม


(4)  ช่องทางการร้องขอ

บริษัทคุเระโทอิชิ จำกัด ฝ่ายธุรการ ส่วนรับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคล
2-1-5 Hamamatsu-Cho Minato-Ku Tokyo 105-0013

 

4. หัวข้อที่เจ้าของข้อมูลควรทราบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ครอบครองอื่นๆ(กฎหมายมาตรา32วรรคที่1)
  1. ชื่อและที่อยู่ของเบริษัทฯและชื่อตัวแทน
    บริษัทคุเระโทอิชิ จำกัด
    2-1-5 Hamamatsu-Cho Minato-Ku Tokyo
    ประธานกรรมการบริหาร Susumu Takahashi
  2. วัตถุประสงค์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่
    วัตถุประสงค์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่ที่บริษัทฯครอบครองนั้น จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ1(1)
  3. ขั้นตอนการดำเนินการร้องขอเปิดเผยข้อมูล ฯลฯ
    ขั้นตอนการดำเนินการร้องขอเปิดเผยข้อมูล ฯลฯ จะเป็นไปตามที่อธิบายไว้ในข้อ3.ดังข้างต้น
  4. มาตรการในการจัดการความปลอดภัย
    บริษัทฯได้ดำเนินมาตรการจัดการความปลอดภัยรวมถึงมาตรการดังต่อไปนี้
    (การทบทวนกฏระเบียบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล)
    บริษัทฯได้กำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งกำหนดวิธีการจัดการ หน้าที่ของผู้รับผิดชอบ ฯลฯ เกี่ยวกับการได้มา การใช้ การจัดเก็บ การจัดหา การลบ การกำจัด ฯลฯ ของข้อมูลส่วนบุคคล
    (มาตรการจัดการความปลอดภัยด้านองค์กร)
    บริษัทฯได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล โดยร่วมกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและพนักงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการกำหนดขอบเขตการใช้งานให้มีความชัดเจน โดยหากว่าได้รับทราบถึงการปฏิบัติที่ขัดต่อกฏหมายหรือกฏระเบียบ จะมีระบบการแจ้งรายงานไปยังผู้รับผิดชอบนั้น
    (มาตรการจัดการความปลอดภัยด้านบุคคล)
    บริษัทฯจัดให้มีการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอแก่พนักงานเกี่ยวกับประเด็นที่ควรทราบเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและกฏระเบียบภายในบริษัท
    (มาตรการจัดการความปลอดภัยทางกายภาพ)
    บริษัทฯมีการดำเนินมาตรการป้องกันการโจรกรรมหรือการสูญหายของอุปกรณ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
    (มาตรการจัดการความปลอดภัยทางเทคนิค)
    บริษัทฯมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและจำกัดขอบเขตการใช้งานของฐานข้อมูลส่วนบุคคล ฯลฯ เป็นต้น
    (การรับรู้สภาพแวดล้อมภายนอก)
    บริษัทฯได้ดำเนินมาตรการจัดการความปลอดภัย อีกทั้งยังเข้าใจระบบเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้
  5. ช่องทางติดต่อสำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและการ 
    สอบถามอื่นๆบริษัทคุเระโทอิชิ จำกัด ฝ่ายธุรการ ส่วนรับผิดชอบรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    โทร 03-3432-4121
    (เวลาทำการ 9:30~17:30 , ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์,วันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดของบริษัทฯ)

ปรับแก้ไขเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2022


 

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (2019)

เอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ของ
บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด

บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า
ผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา ผู้จัดหา/ซัพพลายเออร์ (supplier) สายเรือ ผู้ให้บริการขนส่ง นายหน้า/ตัวแทนในการจัดการผ่านพิธีการศุลกากร (Shipping) และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ รวมถึง กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือ บุคลากรของบุคคลดังกล่าว และบริษัทฯ ตระหนักถึงหน้าที่ของบริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึง กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ ประกาศ และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง (รวมเรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ”) บริษัทฯ จึงได้จัดทำเอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบว่า บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไรและมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึง ระยะในการจัดเก็บข้อมูล ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอาจจะถูกเปิดเผย และสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียด ดังนี้

    1. คำนิยาม

      ข้อมูลส่วนบุคคล”

      หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

      “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”

      หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ

    2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

      ในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทฯ มีการติดต่อประสานงานและดำเนินการต่าง ๆ กับลูกค้า คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา ผู้จัดหา/ซัพพลายเออร์ (supplier) สายเรือ ผู้ให้บริการขนส่ง นายหน้า/ตัวแทนในการจัดการผ่านพิธีการศุลกากร (Shipping) และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ รวมถึง กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือ บุคลากรของบุคคลดังกล่าว ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลต่าง ๆ ดังกล่าวซึ่งรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

      • ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล รวมถึง นามบัตร
      • สำเนาบัตรประชาชน และ/หรือ สำเนาหนังสือเดินทาง รวมถึง เลขประจำตัวประชาชน และ/หรือ เลขที่หนังสือเดินทาง
      • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
        
    3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
      3.1.บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง
        และจากองค์กรของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือจากบุคลากรอื่นในองค์กร
      3.2.บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยได้รับเป็นเอกสาร
        ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ หรือได้รับทางอีเมล

    4. การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว
      4.1. บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด ตามวัตถุประสงค์ ฐานตามกฎหมาย ขอบเขต และวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
      4.2. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำไปใช้ และ/หรือ เปิดเผยโดยมีวัตถุประสงค์ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
      (1) เพื่อใช้ตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา ผู้จัดหา/ซัพพลายเออร์ (supplier) สายเรือ ผู้ให้บริการขนส่ง นายหน้า/ตัวแทนในการจัดการผ่านพิธีการศุลกากร (Shipping) หรือผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ
      (2) เพื่อใช้ติดต่อประสานงานกับลูกค้า คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับเหมา ผู้จัดหา/ซัพพลายเออร์ (supplier) สายเรือ ผู้ให้บริการขนส่ง นายหน้า/ตัวแทนในการจัดการผ่านพิธีการศุลกากร (Shipping) หรือผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ในการดำเนินงานต่าง ๆ ในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ (เช่น ในการบำรุงรักษาเครื่องจักร ซื้ออะไหล่/สินค้าในการซ่อมแซม ประเมินคุณสมบัติผู้ขาย/คู่สัญญาในการทำธุรกรรมครั้งแรกกับบริษัทฯ ทำธุรกรรมซื้อขายสินค้า/บริการ นำเข้า-ส่งออกสินค้า พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ เสนอขายและส่งเสริมการขายสินค้า/บริการ และเจรจาตกลงราคา ระยะเวลาส่งมอบ และข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่น ๆ ของสัญญา เป็นต้น)
      (3) เพื่อใช้จัดทำสัญญา/หลักฐานข้อตกลงการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ และดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามสัญญา
      (4) เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลเครือข่ายธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
      (5) เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
      (6) เพื่อการประกอบกิจการและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัทฯ ที่บริษัทฯ มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึง การให้คำแนะนำ ความช่วยเหลือ ความร่วมมือ และ/หรือ ประสานงานกับคู่ค้าทางธุรกิจและผู้จัดหาสินค้า/บริการ (supplier) ของบริษัทฯ การทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชีของบริษัทฯ
      (7) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
      4.3. นอกจากนี้ บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลบางประการ (เช่น ชื่อ-นามสกุลของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามหรือผู้รับมอบอำนาจขององค์กร เป็นต้น) เพื่อเข้าทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง มิเช่นนั้นอาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเข้าทำสัญญาดังกล่าวได้

       
    5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
      5.1. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
      บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ทั้งในรูปแบบเอกสาร (Hard Copy) และในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ Soft File
      5.2. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
      5.2.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

      ที่

      ประเภทข้อมูล / เอกสาร

      ระยะเวลา

      1.      

      สัญญา หลักฐานข้อตกลงการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ ชื่อ-นามสกุลและลายมือชื่อของผู้แทนที่มีอำนาจลงนามของคู่สัญญา และเอกสารประกอบต่าง ๆ

      ตลอดไป

      2.      

      บัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี

      ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับแต่วันปิดบัญชี

      3.      

      ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ และเอกสารอื่น ๆ ที่มีข้อมูลดังกล่าว

      บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูล/เอกสารแต่ละรายการไว้เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามลักษณะของข้อมูล/เอกสารนั้น ๆ

      5.2.2 ไม่ว่าข้อ 5.2.1 จะกำหนดระยะเวลาเก็บรักษาเอกสาร/ข้อมูลไว้อย่างไรก็ตาม หากมีกฎหมายใดที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม กำหนดให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ หรือเอกสารใดๆ ที่มีข้อมูลดังกล่าวเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ในข้อ 5.2.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลหรือเอกสารดังกล่าวเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
      5.2.3 หากบริษัทฯ พิจารณาเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ เอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าวตามที่ระบุไว้ในข้อ 5.2.1(2) และ (3) ข้างต้นบางอย่าง อาจเป็นข้อมูล/เอกสารที่จำเป็นหรือสำคัญในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรืออาจช่วยบริษัทฯ ในข้อพิพาท ข้อเรียกร้อง และ/หรือ คดีความที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไม่ว่าในรูปแบบใดๆ บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูล และ/หรือ เอกสารดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลานานกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ในข้อ 5.2.1(2) (3) หรือ 5.2.2 แต่ไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
      5.2.4 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สงวนสิทธิในการพิจารณาเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและเอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าวบางอย่างไว้เป็นระยะเวลาที่นานกว่าระยะเวลาที่ระไว้ข้างต้นหากบริษัทฯ พิจารณาเห็นว่าจำเป็นไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ
      5.2.5 บริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้างต้น หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอและมีสิทธิเช่นว่านั้น หรือที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถอนความยินยอม (เฉพาะในกรณีที่การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องได้รับความยินยอม) (ยกเว้นกรณีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด)

       
    6. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผยและเหตุที่ข้อมูลดังกล่าวอาจถูกเปิดเผย
      6.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลดังต่อไปนี้และด้วยเหตุดังต่อไปนี้
      (1) หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ หรือคำสั่งศาล ที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
      (2) ผู้ตรวจสอบบัญชี เนื่องจากบริษัทฯ มีผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่ดำเนินการตรวจสอบบัญชีของบริษัทฯ ตามรอบระยะเวลาบัญชี บริษัทฯ จึงต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประการต่อผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อการดำเนินการดังกล่าว
      6.2 บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลบางประการหรือเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวดังต่อนี้ไปยังบริษัทแม่ของบริษัทฯ คือ บริษัท คุเระ ไกรน์ ดิ้ง วีล (Kure Grinding Wheel Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายญี่ปุ่นและอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
      (1) ื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล รวมถึง นามบัตร ของลูกค้า รวมถึง ของกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือ บุคลากรของลูกค้า เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลเครือข่ายธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
      (2) ใบเสนอราคาและชื่อและนามสกุลของบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริษัทแม่พิจารณาอนุมัติการทำธุรกรรมของบริษัทฯ
      6.3 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลอื่นตามที่ระบุไว้ข้างต้น (หากมี) จะเป็นไปอย่างจำกัด และบริษัทฯ จะเปิดเผยเฉพาะข้อมูล และ/หรือ เอกสารที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
      6.4 ในกรณีที่บริษัทฯ จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ต่อบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมและจะต้องได้รับความยินยอมโดยชอบจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อนเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

       
    7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนตามที่ระบุไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ดังนี้
      (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ในกรณีบริษัทฯ อาศัยเฉพาะแต่เพียงความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นฐานตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถอนความยินยอมนั้นทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอนความยินยอมในเวลาที่ถอนความยินยอมนั้น
      (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
      (3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทฯ ได้ ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และ/หรือ ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
      (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
      (5) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
      (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
      (7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
      (8) สิทธิในการร้องเรียนบริษัทฯ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานหรือคณะกรรมที่มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ในกรณีที่บริษัทฯ รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือประกาศต่างๆ ที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว

      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิตามข้อ (1) – (7) ข้างต้นได้ ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 8 ด่านล่าง
       
    8. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ และช่องทางการติดต่อ
      หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการคุ้มครองของมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมายังฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการของบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อดังต่อไปนี้
      ชื่อบริษัทฯ: บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด
      สถานที่ติดต่อ: 7/415 หมู่ที่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
      บุคคลที่ต้องติดต่อ: หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล / ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ
      ช่องทางการติดต่อ: อีเมล์ ornuma.s@kgw.co.jp
      โทรศัพท์ 038-913554
      เว็บไซต์ https://www.kgw.co.jp
    ประกาศใช้เมื่อ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

    •  

      เอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ “ผู้สมัครงาน”

      ของ

      บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด

       บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง ตระหนักถึงหน้าที่ของบริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ”) บริษัทฯ จึงได้จัดทำเอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน
      (“เอกสารฯ”) ฉบับนี้ เพื่อแจ้งให้ผู้สมัครงานทราบและเข้าใจว่า บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานอย่างไรบ้าง โดยมีรายละเอียด ดังนี้


            1. คำนิยาม
              “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
              “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งตามเอกสารฯ นี้ คือ ผู้สมัครงาน)
              “ผู้สมัครงาน” หมายถึง บุคคลซึ่งสมัครงานกับบริษัทฯ ไม่ว่าโดยช่องทางใดและในตำแหน่งใดก็ตาม
              “ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในข้อ 2 ของเอกสารฯ นี้

               
            2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
              2.1. บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน และเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน รวมถึงข้อมูลและเอกสารดังต่อไปนี้
              • ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ รูปถ่าย อายุ วันเดือนปีเกิด และสัญชาติ ของผู้สมัครงาน
              • ประวัติการศึกษา รวมถึงสำเนาเอกสารแสดงวุฒิการศึกษา กิจกรรมระหว่างเรียน งานอดิเรก ประเภท/ตำแหน่งงานที่สมัคร ประวัติการทำงาน รวมถึงตำแหน่งงานและเงินเดือนที่ได้รับ ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ด้านภาษา และการพิมพ์ดีด ประวัติการฝึกอบรม ของผู้สมัครงาน
              • สำเนาบัตรประชาชน และ/หรือ สำเนาหนังสือเดินทาง รวมถึง เลขประจำตัวประชาชน และ/หรือ เลขที่หนังสือเดินทาง ของผู้สมัครงาน
              • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัครงาน
              • ความสามารถในการขับขี่ รวมถึงสำเนาใบอนุญาตขับขี่ของผู้สมัครงาน
              • ประวัติการเกณฑ์ทหารของผู้สมัครงาน รวมถึง สำเนาใบผ่านการเกณฑ์ทหาร
              • ใบสมัครงานซึ่งมีอาจข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานข้อมูลอื่น ๆเป็นต้น
              2.2. นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (โดยได้รับความยินยอมจากผู้สมัครงานที่เป็นเจ้าของข้อมูลในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมดังกล่าวตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ) ดังนี้
              • ประวัติอาชญากรรม
              • ข้อมูลความเจ็บป่วย/โรคเรื้อรัง

               
            3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
              3.1. บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานจากแหล่งที่มาของข้อมูลดังต่อไปนี้
              (1) จากผู้สมัครงานโดยตรง เมื่อตอนที่ผู้สมัครงานยื่นสมัครงานกับบริษัทฯ
              (2) จากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้สมัครงาน ดังนี้
              • บริษัทจัดหางาน บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น และตัวแทนจ้างงาน (agent) ซึ่งส่งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานมาให้บริษัทฯ
              • บริษัทฯ ยังอาจได้รับประวัติอาชญากรรมของพนักงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
              3.2. บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานจากแหล่งที่มาของข้อมูลตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยได้รับเป็นเอกสาร ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ และได้รับทางอีเมล์

               
            4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน
              4.1. บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานอย่างจำกัด ตามวัตถุประสงค์ ฐานตามกฎหมาย ขอบเขต และวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
              4.2. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานเพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานไปใช้ และ/หรือ เปิดเผยโดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
              (1) เพื่อระบุหรือยืนยันตัวตนและที่อยู่อาศัยของผู้สมัครงาน และตรวจสอบว่าผู้สมัครงานเป็นผู้ที่สามารถขับขี่ยานยนต์บนท้องถนนได้ถูกต้องตามกฎหมาย
              (2) เพื่อใช้พิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครงาน ประกอบการสัมภาษณ์งานและพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงานเข้ามาเป็นพนักงานของบริษัทฯ ทั้งนี้ ตามคำขอสมัครงานของผู้สมัครงาน
              (3) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัทฯ อันเป็นประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
              บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนโดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
              (4) บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครงาน เพื่อใช้ในการพิจารณาความเหมาะสมของผู้สมัครงานในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องหากบริษัทฯ จะพิจารณาจ้างงาน
              (5) บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลความเจ็บป่วย/โรคเรื้อรังของผู้สมัครงาน เพื่อใช้ในการพิจารณาความพร้อมด้านสุขภาพและความเหมาะสมของผู้สมัครงานในการปฏิบัติหน้าที่หากบริษัทฯ จะพิจารณาจ้างงาน
              4.3. นอกจากนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ตกลงจ้างงานผู้สมัครงานรายใด ผู้สมัครงานต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนบางประการ (เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น) เพื่อเข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทฯ มิเช่นนั้นอาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถทำสัญญาจ้างกับผู้สมัครงานได้
              4.4. หากผู้สมัครงานได้รับคัดเลือกให้เข้ามาเป็นพนักงานของบริษัทฯ บริษัทฯ ยังอาจมีใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 2 และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เกี่ยวกับพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ อีก โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้พนักงานของบริษัทฯ ทราบตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ต่อไป

               
            5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน
              5.1. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน
              บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานไว้ทั้งในรูปแบบเอกสาร (Hard Copy) และในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ Soft File
              5.2. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน
              5.2.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานและเอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าวเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับใบสมัครงาน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้สมัครงานได้รับคัดเลือกให้เข้ามาเป็นพนักงานของ
              บริษัทฯ บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานรายนั้นต่อไป โดยบริษัทฯ จะแจ้งระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานให้พนักงานของบริษัทฯ ทราบต่อไป
              5.2.2 ไม่ว่าข้อ 5.2.1 จะกำหนดระยะเวลาเก็บรักษาเอกสาร/ข้อมูลไว้อย่างไรก็ตาม หากมีกฎหมายใดที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม กำหนดให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เกี่ยวกับผู้สมัครงานหรือเอกสารใดๆ ที่มีข้อมูลดังกล่าวเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ในข้อ 5.2.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลหรือเอกสารดังกล่าวเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
              5.2.3. หากบริษัทฯ พิจารณาเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน และ/หรือ เอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าวบางอย่าง อาจเป็นข้อมูล/เอกสารที่จำเป็นหรือสำคัญในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรืออาจช่วยบริษัทฯ ในข้อพิพาท ข้อเรียกร้อง และ/หรือ คดีความที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไม่ว่าในรูปแบบใดๆ บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูล และ/หรือ เอกสารดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลานานกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ในข้อ 5.2.1 หรือ 5.2.2 แต่ไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานที่เกี่ยวข้อง
              5.2.4. บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามที่ผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอและมีสิทธิเช่นว่านั้น หรือได้ถอนความยินยอม (เฉพาะในกรณีที่การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องได้รับความยินยอม) (ยกเว้นกรณีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด)

               
            6. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผยและเหตุที่ข้อมูลดังกล่าวอาจถูกเปิดเผย
              6.1. บริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานบางประการ (เช่น ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย อายุ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน เป็นต้น) ไปยังบริษัทแม่ของบริษัทฯ คือ บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (Kure Grinding Wheel Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายญี่ปุ่นและอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้บริษัทแม่ของบริษัทฯ ร่วมพิจารณาสัมภาษณ์งานผู้สมัครงานและพิจารณาคัดเลือกรับผู้สมัครงานเข้ามาเป็นพนักงานของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
              6.2. บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานตามที่ระบุไว้ข้างต้นอย่างจำกัด เฉพาะข้อมูล และ/หรือ เอกสารที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงาน
              6.3. ในกรณีที่บริษัทฯ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เกี่ยวกับผู้สมัครงานต่อบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมและจะต้องได้รับความยินยอมโดยชอบจากผู้สมัครงานที่เกี่ยวข้องก่อนเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

               
            7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
              เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนตามที่ระบุไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ดังนี้
              (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ในกรณีบริษัทฯ อาศัยเฉพาะแต่เพียงความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นฐานตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอนความยินยอมในเวลาที่ถอนความยินยอมนั้น
              (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
              (3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทฯ ได้ ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และ/หรือ ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
              (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
              (5) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
              (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
              (7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
              (8) สิทธิในการร้องเรียนบริษัทฯ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานหรือคณะกรรมที่มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ในกรณีที่บริษัทฯ รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือประกาศต่างๆ ที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว

              เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิตามข้อ (1) – (7) ข้างต้นได้ ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 8 ด่านล่าง
               
            8. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ และช่องทางการติดต่อ
              หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการคุ้มครองของมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้สมัครงานของ
              บริษัทฯ โปรดติดต่อมายังหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อดังต่อไปนี้
              ชื่อบริษัทฯ: บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด
              สถานที่ติดต่อ: 7/415 หมู่ที่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
              บุคคลที่ต้องติดต่อ: หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล
              ช่องทางการติดต่อ: อีเมล์ [ornuma.s@kgw.co.jp]
              โทรศัพท์ [038-913554-5]
              เว็บไซต์ [www.kgw.co.jp]

              ประกาศใช้เมื่อ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565


               
               

      เอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน

      ของ

      บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด

       บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานของบริษัทฯ รวมทั้งตระหนักถึงหน้าที่ของบริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ”) บริษัทฯ จึงได้จัดทำเอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน (“เอกสารฯ”) ฉบับนี้ เพื่อแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบและเข้าใจโดยทั่วกันว่า บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานประเภทใดและด้วยวิธีการใด บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์อย่างไรในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานไว้เป็นระยะเวลานานเท่าใด ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานอาจจะถูกเปิดเผย และพนักงานสิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไรบ้าง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

        1. คำนิยาม
          “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
          “ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ อาทิ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น
          “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งตามเอกสารฯ นี้ คือ พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.2 ของเอกสารฯ นี้)
          “พนักงาน” หมายถึง พนักงานและบุคลากรทั้งหมดทุกประเภทของบริษัทฯ รวมถึง (แต่ไม่จำกัดเฉพาะ) กรรมการ ผู้บริหาร นักศึกษาฝึกงาน พนักงานที่อยู่ในช่วงทดลองงานของบริษัทฯ ทั้งที่สิ้นสุดการเป็นพนักงานหรือบุคคลกรของบริษัทฯ แล้ว และ/หรือ ที่ยังคงเป็นพนักงานหรือบุคคลกรของบริษัทฯ อยู่ (ตามแต่บริบทของข้อความที่เกี่ยวข้องในเอกสารฯ นี้) รวมถึงพนักงานจัดจ้างภายนอก (Outsourcing) ในบางกรณี
          “พนักงานจัดจ้างภายนอก” (Outsourcing) พนักงานที่บริษัทฯ มิได้เป็นลูกจ้างโดยตรงของบริษัทฯ แต่บริษัทฯ ว่าจ้างให้มาทำงานในตำแหน่งต่างๆ ผ่านบุคคลภายนอกหรือตัวแทนจ้างงาน (agent) เช่น คนขับรถ และนักแปล/ล่าม เป็นต้น
          “ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน) ตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.1 และข้อ 2.2 ของเอกสารฯ นี้)

           
        2. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
          2.1. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน และเอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าว รวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง) ข้อมูลดังต่อไปนี้
          ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน/เอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าว
          (1)ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป อาทิเช่น
          • ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ สถานภาพสมรส และอายุ ของพนักงานและพนักงานจัดจ้างภายนอก
          • ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของพนักงานและพนักงานจัดจ้างภายนอก
          • สำเนาบัตรประชาชน และ/หรือ สำเนาหนังสือเดินทาง รวมถึง เลขประจำตัวประชาชน และ/หรือ เลขที่หนังสือเดินทาง ของพนักงานและพนักงานจัดจ้างภายนอก
          • สำเนาใบอนุญาตขับขี่ของพนักงาน และพนักงานจัดจ้างภายนอก (ตำแหน่งคนขับรถ)
          • สำเนาทะเบียนบ้านของพนักงาน
          • สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของพนักงาน รวมถึง เลขที่บัญชีธนาคาร
          • ประวัติการศึกษาของพนักงาน รวมถึง สำเนาเอกสารแสดงวุฒิการศึกษา
          • ประวัติการทำงาน และความสามารถด้านต่าง ๆ (เช่น ความสามารถด้านภาษา เป็นต้น) รวมถึงหนังสือรับรองความสามารถของพนักงาน และพนักงานจัดจ้างภายนอก (เช่น นักแปล/ล่าม เป็นต้น)
          • ประวัติการเกณฑ์ทหารของพนักงาน รวมถึง สำเนาใบผ่านการเกณฑ์ทหาร
          • ใบสมัครงานของพนักงาน รวมถึง เอกสารแนบใบสมัครทั้งหมดเป็นต้น
          (2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน
          • ประวัติอาชญากรรม
          • ผลการตรวจสุขภาพ ความเห็นแพทย์เกี่ยวกับสภาวะสุขภาพของพนักงาน รวมถึง ใบตรวจโรค/ใบรับรองแพทย์ ข้อมูลความเจ็บป่วย/โรคเรื้อรัง
          • ข้อมูลผลการตรวจสารเสพติดของพนักงาน
          • ลายนิ้วมือของพนักงาน
          (3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน อาทิ เช่น
          • สัญญาจ้างระหว่างบริษัทฯ กับพนักงาน และวันเริ่มจ้างงาน
          • สำเนาใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว (work permit) และวีซ่า (visa) ของพนักงาน
          • รูปถ่าย และรหัสประจำตัวพนักงาน
          • ชื่อบัญชีผู้ใช้ (username) และ/หรือ รหัสผ่าน (password) ประจำตัวของพนักงานเพื่อใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทฯ
          • ตำแหน่ง แผนก เงินเดือน/ค่าจ้าง และอายุงานของพนักงาน
          • เวลาเข้า-ออกงาน ประวัติการมาทำงาน บันทึกวันลา ผลประเมินการทำงานและประสิทธิภาพในการทำงาน การปรับตำแหน่งงานหรือเงินเดือนของพนักงาน และประวัติการลงโทษพนักงาน
          • ประวัติ/หลักฐานการเข้ารับการฝีกอบรมของพนักงาน รวมถึง การเข้ารับการฝึกอบรมด้วนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
          • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ เกี่ยวกับพนักงานที่บริษัทฯ จัดทำขึ้น (เช่น ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินเดือน/ค่าจ้างแก่พนักงาน ข้อมูลการส่งเงินสมทบเข้าประกันสังคมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงาน เป็นต้น)
          เป็นต้น
          2.2. เมื่อจำเป็น บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงาน (ซึ่งพนักงานจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวในการให้ข้อมูลแก่บริษัทฯ แล้ว) ดังนี้
          • ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และความสัมพันธ์กับพนักงาน ของบุคคลที่พนักงานระบุ/แจ้งไว้เป็นบุคคลที่ให้บริษัทฯ ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
          • ชื่อ-นามสกุล อายุ ที่อยู่ และสำเนาหนังสือเดินทาง/บัตรประชนชนของสามีหรือภรรยาของพนักงาน
            ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ และสำเนาใบสูติบัตรของบุตรของพนักงาน
            ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ และที่อยู่ ของบิดา มารดา และ/หรือ พี่น้องของพนังกงาน

           
        3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
          3.1. บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานของพนักงานจากแหล่งที่มาของข้อมูลดังต่อไปนี้
          (1) บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากข้อมูลหรือเอกสารที่พนักงานส่งมอบให้แก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น ใบสมัครงานที่พนักงานกรอก เอกสารประกอบการสมัครงาน สำเนาบัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาที่พนักงานยื่นต่อบริษัทฯ เป็นต้น และข้อมูลที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นหรือเก็บรวมรวมระหว่างระยะเวลาที่จ้างงาน เช่น ประวัติการมาทำงาน/วันลา ผลประเมินการทำงานและประสิทธิภาพในการทำงาน การปรับตำแหน่งงานหรือเงินเดือนของพนักงาน เป็นต้น
          (2) บริษัทฯ ยังอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานโดยวิธีการอัตโนมัติ เช่น บริษัทฯ เก็บข้อมูลเวลาเข้า-ออกงานของพนักงานเมื่อพนักงานสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้ามายังบริษัทฯ และคอมพิวเตอร์ของบริษัทฯ ที่พนักงานใช้ทำงานในบริษัทฯ มีการเก็บประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ (browsing history) ของพนักงานโดยอัตโนมัติ เป็นต้น
          (3) บริษัทฯ ยังเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงาน ดังนี้
          • บริษัทฯ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของพนักงานจากโรงพยาบาล และข้อมูลผลการตรวจสารเสพติดจากหน่วยงานตรวจสารเสพติดที่บริษัทฯ ตกลงให้ตรวจสารเสพติดพนักงาน
          • บริษัทฯ ยังอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานจากบุคคลที่ให้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินตามที่พนักงานได้แจ้งให้บริษัทฯ ทราบ
          • บริษัทฯ ยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานจากบริษัทจัดหางาน บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น และตัวแทนจ้างงาน (agent) ซึ่งส่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานมาให้บริษัทฯ
          • บริษัทฯ ยังอาจได้รับประวัติอาชญากรรมของพนักงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
          3.2. บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานของพนักงานจากแหล่งที่มาของข้อมูลตามที่ระบุไว้ข้างต้นโดยได้รับเป็นเอกสาร ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ ได้รับทางอีเมล์ โดยบริษัทฯ เป็นผู้จัดทำขึ้นเองเป็นเอกสารหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือ โดยระบบบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ

           
        4. การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน และวัตถุประสงค์ในการเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน
          4.1. บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานอย่างจำกัด ตามวัตถุประสงค์ ฐานตามกฎหมาย ขอบเขต และวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
          4.2. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานเพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานไปใช้ และ/หรือ เปิดเผยโดยมีวัตถุประสงค์ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง) วัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
          (1) เพื่อระบุหรือยืนยันตัวตนและที่อยู่อาศัยของพนักงานของพนักงาน และตรวจสอบว่าพนักงาน รวมถึงพนักงานจัดจ้างภายนอก (ตำแหน่งคนขับรถ) เป็นผู้ที่สามารถขับขี่ยานยนต์บนท้องถนนได้ถูกต้องตามกฎหมาย
          (2) เพื่อใช้ในการบริหารงานบุคคลและการทำงานทั่วไปของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึง การจัดทำทะเบียนลูกจ้าง/ทะเบียนพนักงาน การเก็บหลักฐานในการจ้างงาน และแฟ้มประวัติของพนักงานซึ่งรวมถึงข้อมูลคุณสมบัติของพนักงาน บันทึกเวลาเข้าออกงานและการทำงานของพนักงานในแต่ละวัน การติดต่อกับพนักงาน การพิจารณาการปรับเลื่อนตำแหน่ง เงินเดือน และ/หรือ โบนัส การทำแบบฟอร์มลงทะเบียนโครงการฝึกอบรมและประวัติการเข้ารับการฝึกอบรมของพนักงาน
          (3) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับพนักงาน ซึ่งรวมถึง การส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปให้ธนาคารเพื่อทำการจ่ายเงินเดือน/ค่าจ้าง โบนัส และผลประโยชน์ตอบแทนอื่นแก่พนักงาน การส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปให้บริษัทประกัน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ/หรือ บุคคลอื่น เพื่อจัดให้พนักงานได้รับสวัสดิการตามที่พนักงานพึงได้รับ
          (4) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (รวมถึง กฎกระทรวง ประกาศ กฎระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ออกตามกฎหมาย) ที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม เช่น
          • เพื่อจัดทำประวัติ/หลักฐานการอบรมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้กับพนักงาน ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
          • เพื่อจัดทำและส่งข้อมูลลูกจ้าง/พนักงาน แบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ แจ้งเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการ และ/หรือ ข้อมูลอื่นๆ ให้สำนักงานประกันสังคม แจ้งการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของพนักงานต่อสำนักงานประกันสังคม และดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537
          • เพื่อดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายเงินทดแทน กฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน กฎหมายภาษีอากร กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว กฎหมายคนเข้าเมือง และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นต้น
          (5) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงาน (รวมถึงครอบครัวของพนักงาน) ในการใช้สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม และ/หรือ กองทุนเงินทดแทนในกรณีต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกำหนด และในการใช้สิทธิเบิกเงินและสวัสดิการอื่นๆ ตามที่พนักงานมีสิทธิได้รับ
          (6) เพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ (มยส.) ตามที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกำหนดขึ้น
          (7) เพื่อการประกอบกิจการและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัทฯ ที่บริษัทฯ มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึง การให้คำแนะนำ ความช่วยเหลือ ความร่วมมือ และ/หรือ ประสานงานกับคู่ค้าทางธุรกิจ ผู้จัดหาสินค้า/บริการ (supplier) และลูกค้าของบริษัทฯ การทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชีของบริษัทฯ
          (8) เพื่อการดำเนินกระบวนการทางศาล และ/หรือ อนุญาโตตุลาการ ซึ่งรวมถึง การต่อสู้คดีในศาลหรืออนุญาโตตุลาการด้วย หากมี/จำเป็น
          (9) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ
          (10) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
          นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับพนักงาน (โดยได้รับความยินยอมจากพนักงานในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมดังกล่าวตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ) โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

           
          (1) บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลประวัติอาชญากรรมของพนักงานเพื่อใช้ในการพิจารณาความเหมาะสมของพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้อง
          (2) บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลความเจ็บป่วย/โรคเรื้อรังของพนักงานเพื่อใช้ในการพิจารณาความพร้อมด้านสุขภาพและความเหมาะสมของพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่
          (3) บริษัทฯ เก็บรวบรวมใบรับรองแพทย์ของพนักงานเพื่อประกอบการลาป่วยของพนักงานอย่างน้อย 3 วันติดต่อกันตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
          (4) บริษัทฯ เก็บรวบรวมประวัติและผลการตรวจสุขภาพ ความเห็นแพทย์เกี่ยวกับสภาวะสุขภาพของพนักงาน รวมถึง ใบตรวจโรค/ใบรับรองแพทย์ของพนักงาน เพื่อพิจารณาความพร้อมด้านสุขภาพเบื้องต้นของพนักงาน และเฝ้าระวังพนักงานที่มีความเสี่ยงด้านปัญหาสุขภาพ รวมถึงในด้านโรคติดต่ออันตรายและโรคติดต่ออื่น ๆ เพื่อเป็นการคัดกรองและป้องกันการเกิดโรคระบาดภายในสถานประกอบกิจการ และตรวจสุขภาพพนักงานซึ่งทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง รายงานการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของพนักงานเนื่องจากการทำงานต่อพนักงานตรวจความปลอดภัยและ/หรือพนักงานตรวจแรงงาน จัดให้พนักงานได้รับการรักษาพยาบาลเมื่อพนักงานซึ่งทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงมีผลตรวจสุขภาพผิดปกติหรือมีอาการหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ตรวจสอบสาเหตุความผิดปกติของลูกจ้าง และดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (รวมถึง กฎกระทรวง ประกาศ กฎระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ออกตามกฎหมาย) ทั้งนี้ ตามแนวปฏิบัติการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงด้านเคมีและกายภาพจากการประกอบอาชีพในสถานประกอบกิจการ กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานการตรวจสุขภาพลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง พ.ศ. 2563 พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 รวมถึงที่อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในอนาคต
          (5) บริษัทฯ เก็บรวบรวมผลตรวจสารเสพติดของพนักงานเพื่อใช้พิจารณาว่าพนักงานมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่ และเพื่อพิจารณาคัดเลือกบุคลากรที่ไม่มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเข้าเป็นพนักงาน เพื่อควบคุม สอดส่อง และดูแล ไม่ให้พนักงานกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519
          (6) บริษัทฯ เก็บรวบรวมลายนิ้วมือของพนักงานเพื่อให้พนักงานใช้ยืนยันตัวตนโดยการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าออกสถานที่ทำงาน ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และเพื่อบันทึกเวลาเข้าออกงานของพนักงาน
          4.3. พนักงานของบริษัทฯ ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนบางประการ (เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประชาชน สัญชาติ เป็นต้น) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น เพื่อส่งเงินสมทบตามกฎหมายประกันสังคมและกฎหมายเงินทดแทน เพื่อยื่นข้อมูลเกี่ยวกับเงินได้ของพนักงานและภาษีหัก ณ ที่จ่ายต่อกรมสรรพากรตามกฎหมายภาษีอากร เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวและกฎหมายคนเข้าเมือง เป็นต้น หากพนักงานไม่ให้ข้อมูลที่จำเป็นดังกล่าว อาจก่อให้เกิดการฝ่าฝืนกฎหมายซึ่งส่งผลให้พนักงาน และ/หรือ บริษัทฯ มีความผิดและต้องได้รับโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ และในกรณีที่บริษัทฯ อาจมีความรับผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้ พนักงานของบริษัทฯ ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนบางประการ (เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน สำเนาบัตรประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร เป็นต้น) เพื่อเข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทฯ และปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว มิเช่นนั้นอาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ตามสัญญาจ้างได้ (เช่น ไม่สามารถดำเนินการจ่ายเงินเดือน/ค่าตอบแทนในการทำงานให้แก่พนักงาน ไม่สามารถจัดให้พนักงานมีสวัสดิการตามที่บริษัทฯ ตกลงจะจัดให้แก่พนักงานได้ เป็นต้น)

           
        5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน
          5.1. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน
          บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานไว้ทั้งในรูปแบบเอกสาร (Hard Copy) และในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ Soft File โดยสำหรับเอกสาร (Hard Copy) จะเก็บไว้ที่ตู้เก็บเอกสารของบริษัทฯ ที่มีกุญแจล็อคไว้ และสำหรับเอกสารหรือข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ Soft File จะเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทฯ
          5.2. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน
          5.2.1. บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานและเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานเป็นระยะเวลาดังต่อไปนี้

          ที่

          ประเภทข้อมูล / เอกสาร

          ระยะเวลา

          1.         

          ชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชน และ/หรือ เลขที่หนังสือเดินทาง ของพนักงาน และสัญญาจ้าง

          ตลอดไป (แม้พนักงานจะสิ้นสุดการเป็นพนักงานของบริษัทฯ แล้วก็ตาม)

          2.      

          ลายนิ้วมือ

          ตลอดระยะเวลาที่เป็นพนักงานของบริษัทฯ จนพ้นสภาพการเป็นพนักงาน

          3.      

          ทะเบียนลูกจ้าง (และข้อมูลที่ใช้ในการจัดทำทะเบียนลูกจ้าง)

          ตลอดไป (แม้พนักงานจะสิ้นสุดการเป็นพนักงานของบริษัทฯ แล้วก็ตาม)

          4.      

          ข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่พนักงาน

          ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับแต่วันจ่ายเงินดังกล่าว (หรือจนกว่าจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ในกรณีที่มีข้อพิพาทแรงงาน)

          5.      

          สมุดสุขภาพประจำตัวพนักงาน

          บริษัทฯ จะส่งสมอบคืนให้ลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงเมื่อพนักงานสิ้นสุดการเป็นพนักงานของบริษัทฯ)

          6.      

          ประวัติ/บันทึกผลการตรวจสุขภาพของพนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง และข้อมูลสุขภาพอื่นที่เกี่ยวข้อง

          ไม่น้อยกว่า 2 ปีนับแต่พนักงานสิ้นสุดการเป็นพนักงานของบริษัทฯ (เว้นแต่

          (ก) ผลการตรวจสุขภาพลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งจากการทำงานตามประกาศกระทรวงแรงงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จะเก็บไว้ 10 ปีนับแต่วันสิ้นสุดการจ้าง หรือ

          (ข) มีการร้องทุกข์ว่านายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือมีการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับโรคหรืออันตรายอย่างใดต่อสุขภาพของพนักงาน แม้จะพ้นเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะเก็บรักษาเอกสารนั้นไว้จนกว่าจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว)

          7.      

          ประวัติและผลการตรวจสุขภาพของพนักงานอื่น ๆ ที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง

          ตลอดระยะเวลาที่พนักงานยังคงเป็นพนักงานของบริษัทฯ จนพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และอีก 2 ปีหลังจากนั้น

          8.      

          ประวัติอาชญากรรม

          ตลอดระยะเวลาที่พนักงานยังคงเป็นพนักงานของบริษัทฯ

          9.      

          ผลการตรวจสารเสพติด

          ตลอดระยะเวลาที่พนักงานยังคงเป็นพนักงานของบริษัทฯ และอีก 2 ปีหลังจากนั้น

          10.   

          บัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี

          ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับแต่วันปิดบัญชี (หรือจนกว่าจะมีการส่งมอบบัญชีและเอกสารให้แก่สารวัตรใหญ่บัญชีในกรณีที่มีการชำระบัญชี)

          11.   

          เอกสารที่นำส่งกรมสรรพากร (เช่น ข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่าจากเงินเดือน/ค่าจ้าง เป็นต้น)

          ไม่น้อยกว่า 10 ปีนับแต่วันที่นำส่งกรมสรรพากร

          12.   

          เอกสารที่นำส่งหน่วยงานราชการอื่น

          2 ปีนับแต่วันที่นำส่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องสำหรับส่วนที่นำส่งในรูปแบบเอกสาร (Hard Copy) และ

          5 ปีนับแต่วันที่นำส่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องสำหรับส่วนที่นำส่งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ Soft File

          13.   

          ประวัติ/หลักฐานการเข้ารับการฝึกอบรมของพนักงาน

          ตลอดระยะเวลาที่พนักงานยังคงเป็นพนักงานของบริษัทฯ

          14.   

          ข้อมูลความเจ็บป่วย /โรคเรื้อรัง

          ตลอดระยะเวลาที่พนักงานยังคงเป็นพนักงานของบริษัทฯ

          15.   

          ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานอื่น ๆ และเอกสารอื่น ๆ ที่มีข้อมูลดังกล่าว (เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน และบันทึกวันลาของพนักงาน เป็นต้น)

          บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูล/เอกสารแต่ละรายการไว้เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามลักษณะของข้อมูล/เอกสารนั้น ๆ

          5.2.2. ไม่ว่าข้อ 5.2.1 จะกำหนดระยะเวลาเก็บรักษาเอกสาร/ข้อมูลไว้อย่างไรก็ตาม หากมีกฎหมายใดที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม กำหนดให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เกี่ยวกับพนักงานหรือเอกสารใดๆ ที่มีข้อมูลดังกล่าวเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ในข้อ 5.2.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลหรือเอกสารดังกล่าวเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
          5.2.3. หากบริษัทฯ พิจารณาเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน และ/หรือ เอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าวบางอย่าง อาจเป็นข้อมูล/เอกสารที่จำเป็นหรือสำคัญในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรืออาจช่วยบริษัทฯ ในข้อพิพาท ข้อเรียกร้อง และ/หรือ คดีความที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไม่ว่าในรูปแบบใดๆ บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูล และ/หรือ เอกสารดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลานานกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ในข้อ 5.2.1 หรือ 5.2.2 แต่ไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่สัญญาจ้างระหว่างบริษัทฯ กับพนักงานที่เกี่ยวข้องสิ้นสุดลง
          5.2.4. อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สงวนสิทธิในการพิจารณาเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานและเอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าวบางอย่างไว้เป็นระยะเวลาที่นานกว่าระยะเวลาที่ระไว้ข้างต้นหากบริษัทฯ พิจารณาเห็นว่าจำเป็นไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ
          5.2.5. บริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้างต้น หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือตามที่พนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอและมีสิทธิเช่นว่านั้น หรือที่พนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถอนความยินยอม (เฉพาะในกรณีที่การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องได้รับความยินยอม) (ยกเว้นกรณีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด)

           
        6. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผยและเหตุที่ข้อมูลดังกล่าวอาจถูกเปิดเผย
          6.1. บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานต่อบุคคลดังต่อไปนี้และด้วยเหตุดังต่อไปนี้
          (1) หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น สำนักงานประกันสังคม พนักงานตรวจความปลอดภัย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมสรรพากร กระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ หรือคำสั่งศาล ที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม รวมถึง เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงาน (และครอบครัวของพนักงาน) ในการใช้สิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม และ/หรือ กองทุนเงินทดแทนในกรณีต่างๆ กับหน่วยงานของรัฐตามที่พนักงานมีสิทธิ
          (2) ธนาคาร เพื่อทำการจ่ายเงินเดือน/ค่าจ้าง โบนัส และผลประโยชน์ตอบแทนอื่นแก่พนักงานตามที่พนักงานจะต้องได้รับ
          (3) หน่วยงานตรวจสารเสพติด เนื่องจากบริษัทฯ ได้จัดให้หน่วยงานตรวจสารเสพติดตรวจสารเสพติดพนักงานของพนักงาน บริษัทฯ จึงต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานบางประการให้หน่วยงานตรวจสารเสพติดดังกล่าวทราบ เพื่อให้หน่วยงานตรวจสารเสพติดสามารถดำเนินการตรวจสารเสพติดพนักงานของบริษัทฯ ตามที่มีข้อตกลงกับบริษัทฯ ได้
          (4) โรงพยาบาล เนื่องจากบริษัทฯ ได้จัดให้พนักงานได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอกับโรงพยาบาลที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ จึงต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานบางประการให้โรงพยาบาลดังกล่าวทราบ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถดำเนินการตรวจสุขภาพพนักงานของบริษัทฯ ตามที่มีข้อตกลงกับบริษัทฯ ได้
          (5) บริษัทประกันภัยที่มีข้อตกลงกับบริษัทฯ ในการทำประกันสุขภาพให้กับพนักงาน เนื่องจากบริษัทฯ ตกลงที่จะจัดให้มีประกันสุขภาพพนักงานเป็นสวัสดิการหนึ่งของพนักงาน บริษัทฯ จึงต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานบางประการให้บริษัทประกันภัยดังกล่าวทราบ เพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถดำเนินการประกันสุขภาพของพนักงานตามที่มีข้อตกลงกับบริษัทฯ ได้
          (6) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากบริษัทฯ ตกลงที่จะจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสวัสดิการหนึ่งของพนักงาน บริษัทฯ จึงต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานบางประการให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทฯ จัดเป็นสวัสดิการให้แก่พนักงาน และผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดังกล่าวทราบ เพื่อให้พนักงานได้รับสิทธิและประโยชน์ต่างๆ จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น
          (7) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้จัดหาสินค้า (supplier) และลูกค้า บริษัทฯ มีคู่ค้าทางธุรกิจ ผู้จัดหาสินค้า (supplier) และลูกค้า ที่บริษัทฯ จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ ทำการค้า และ/หรือ ประสานงานในการปฏิบัติงานของบริษัทฯ บริษัทฯ จึงอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานบางประการให้กับบุคคลดังกล่าว
          (8) ที่ปรึกษา และ/หรือ ผู้ให้บริการเฉพาะด้าน/เฉพาะเรื่องแก่บริษัทฯ เนื่องจากบริษัทมีการจ้างบุคคลอื่นเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการเฉพาะด้าน/เฉพาะเรื่อง เช่น ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านการเงิน ผู้ให้บริการด้านเอกสารเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว หรือที่ปรึกษาด้านวิชาชีพอื่น ๆ เป็นต้น บริษัทฯ จึงอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานและพนักงานจัดจ้างภายนอกบางประการต่อบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าวตามข้อผูกพันที่มีกับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีข้อตกลงกับบุคคลดังกล่าวเพื่อควบคุมไม่ให้บุคคลดังกล่าวเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลอื่นหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ
          (9) ผู้ตรวจสอบบัญชี เนื่องจากบริษัทฯ มีผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่ดำเนินการตรวจสอบบัญชีของบริษัทฯ ตามรอบระยะเวลาบัญชี บริษัทฯ จึงต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานและพนักงานจัดจ้างภายนอกบางประการต่อผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อการดำเนินการดังกล่าว
          (10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากบริษัทฯ มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของพนักงาน บริษัทฯ จึงต้องเปิดเผยชื่อ นามสกุล และสำเนาบัตรประชาชนของพนักงาน รวมถึง หนังสือยินยอมให้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของพนักงาน ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
          (11) บุคคลอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนดให้กระทำได้
          6.2. บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานบางประการ (เช่น ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง แผนก เพศ สัญชาติ วันเกิด อายุ เลขประจำตัวประชาชน และ/หรือ เลขที่หนังสือเดินทาง รหัสประจำตัวพนักงาน วันเริ่มงานและวันพ้นสภาพการเป็นพนักงาน ระยะเวลาทำงาน ทะเบียนพนักงาน เงินเดือน เป็นต้น) ไปยังบริษัทแม่ของบริษัทฯ คือ บริษัท คุเระ ไกรน์ ดิ้ง วีล (Kure Grinding Wheel Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายญี่ปุ่นและอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้บริษัทแม่บันทึกข้อมูลลงในระบบโปรแกรมและเก็บเป็นข้อมูลพนักงานทั้งหมดของบริษัทในเครือ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
          6.3. ในกรณีที่บริษัทฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานต่อบุคคลอื่นตามที่ระบุไว้ข้างต้น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานจะเป็นไปอย่างจำกัด และบริษัทฯ จะเปิดเผยเฉพาะข้อมูล และ/หรือ เอกสารที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน
          6.4. ในกรณีที่บริษัทฯ จะต้องได้รับความยินยอมจากพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เกี่ยวกับพนักงานต่อบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมและจะต้องได้รับความยินยอมโดยชอบจากพนักงานที่เกี่ยวข้องก่อนเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

           
        7. การใช้งานคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่บริษัทฯ จัดให้แก่พนักงาน
          7.1. บริษัทแม่ของบริษัทฯ จัดให้มีระบบอัตโนมัติตรวจสอบการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์และโครงข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยหรือผิดกฎหมาย และตรวจสอบและป้องกันการเข้าถึงอีเมล์ความปลอดภัยต่ำหรือที่อาจก่อความเสี่ยงแก่ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทในเครือ โดยเมื่อได้รับรายงานการใช้งานที่น่าสงสัยดังกล่าว บริษัทแม่ของบริษัทฯ จะเข้าไปตรวจสอบการใช้คอมพิวเตอร์/อินเตอร์เน็ตและแจ้งกลับมาทางอีเมลของพนักงานท่านนั้น ๆ และบริษัทฯ ยังอาจมีการตรวจสอบการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์และโครงข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ หรือด้วยวิธีการอื่น ๆ อีกในอนาคต โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้พนักงานที่เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้า
          7.2. บริษัทฯ มีการตรวจสอบเฉพาะยอดเงินการใช้งานโทรศัพท์มือถือที่บริษัทฯ จัดให้แก่พนักงานว่ายังคงอยู่ในแพ็คเกจที่จัดให้แก่พนักงานหรือไม่

           
        8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนตามที่ระบุไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ดังนี้
          (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
          ในกรณีบริษัทฯ อาศัยเฉพาะแต่เพียงความยินยอมของพนักงานเป็นฐานตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงาน พนักงานสามารถเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้พนักงานที่ถอนความยินยอมนั้นทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอนความยินยอมในเวลาที่ถอนความยินยอมนั้น
          (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
          (3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทฯ ได้ ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และ/หรือ ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
          (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
          (5) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวพนักงานที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด
          (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ ด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด (มาตรา 35) เช่น เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอให้ระงับการใช้แทน เป็นต้น
          (7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
          (8) สิทธิในการร้องเรียนบริษัทฯ
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานหรือคณะกรรมที่มีอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ในกรณีที่บริษัทฯ รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือประกาศต่างๆ ที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
          เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิตามข้อ (1) – (7) ข้างต้นได้ ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 9 ด่านล่าง

           
        9. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ และช่องทางการติดต่อ
          หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการคุ้มครองของมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพนักงานของ
          บริษัทฯ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมายังหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อดังต่อไปนี้
          ชื่อบริษัทฯ: บริษัท คุเระ ไกรน์ดิ้ง วีล (ไทยแลนด์) จำกัด
          สถานที่ติดต่อ: 7/415 หมู่ที่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
          บุคคลที่ต้องติดต่อ: หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ
          ช่องทางการติดต่อ: อีเมล์ [ornuma.s@kgw.co.jp]
          โทรศัพท์ [038-913554-5]
          เว็บไซต์ [http://www.kgw.co.jp]

          ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565